ข่าวสาร
[ กันยายน 17, 2021 by whira t 0 Comments ]

ย้อนดูความสำเร็จ 10 แฟรนไชส์ ยอดขายถล่มทลายในงาน Smart SME EXPO เมื่อปีก่อน

แม้จะพบเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่งาน Smart SME Expo 2020 เมื่อปีที่ผ่านมา กลับได้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีผู้เข้าชมงานตลอดการจัดงาน 4 วัน กว่า 35,272 คน มูลค่าการซื้อขายธุรกิจ 170 ล้านบาท ยอดขอสินเชื่อ 1,522 ล้านบาท Business Matching ทั้งในและต่างประเทศ 293 คู่ คิดเป็นมูลค่า 107.1 ล้านบาท

 

และครั้งนี้ เราจะพาย้อนกลับไปดู 10 อันดับธุรกิจ ที่สามารถทำยอดขายได้สูงสุดในงาน Smart SME Expo 2020 เมื่อปีที่ผ่านมา

 

1. แบรนด์แม่ไก่ค้าส่ง: แฟรนไชส์ไส้กรอกอีสาน และอาหารแช่เย็น-แช่แข็ง สามารถขยายแฟรนไชส์ในประเทศไทยได้ถึง 203 ราย ประเทศลาว 10 ราย และแมทชิ่งธุรกิจเพื่อนำสินค้าไปวางจำหน่ายในร้านแมกซ์มาร์ท สถานีปั๊มน้ำมัน PT

2. แบรนด์ Am Tea: แฟรนไชส์ชานมไข่มุก สามารถขายแฟรนไชส์ได้มากถึง 30 ราย

3. ทีเอฟคอสเมโทโลจี: ธุรกิจ OEM เครื่องสำอาง มีลูกค้า SMEs ต้องการผลิตสินค้ากว่า 500 แบรนด์ และยังได้ลูกค้านักลงทุนจากประเทศกัมพูชาและเวียดนาม มาซื้อระบบของโรงงานเข้าไปดำเนินกิจการอีกด้วย

4. เดอะคอนวีเนียซ์ กรุ๊ป: ธุรกิจสินค้าราคาเดียว 60 บาท ที่มีลูกค้าให้ความสนใจจนกระทั่งถึงวันสุดท้าย และขยายสาขาไปทุกภูมิภาค

5. แฟรนไชส์ โลโซโตเกียว: ธุรกิจขนมโตเกียว จากตั้งเป้าจะขายแฟรนไชส์ในงานนี้ 10 สาขา แต่ประสบความสำเร็จเกินคาดหวัง

6. แฟรนไชส์ t-time ติ่มซำ: ได้ลูกค้าแฟรนไชส์ซีกว่า 30 ราย และได้รับพาร์ทเนอร์จากรูปแบบธุรกิจที่แบรนด์ช่วยลงทุนให้อีกกว่า 40 ราย

7. ช่อลดาคอฟฟี่: แฟรนไชส์กาแฟ สามารถปิดลูกค้าได้มากถึง 20 ราย

8. สมาน บิสซิเนส กรุ๊ป: เจ้าของแฟรนไชส์เฮียหมานข้าวมันไก่, กาแฟ ส.มวยไทย, เสื้อยืดสมานการ์เม้นท์ และน้ำสมุนไพรวาซี่ นอกจากจะขยายแฟรนไชส์ และรับออเดอร์ผลิตเสื้อจำนวนมาก ยังได้แมทชิ่งธุรกิจเพื่อนำสินค้าไปวางจำหน่ายในร้านแมกซ์มาร์ท สถานีปั๊มน้ำมัน PT

9. ออสซี่ออยล์: ผู้เชี่ยวชาญทางด้านธุรกิจพลังงาน มีรูปแบบธุรกิจทั้งตู้เติมน้ำมันอัตโนมัติ และแฟรนไชส์น้ำมันเพื่อการเกษตร สามารถทำยอดขายในงานได้สูงมากกว่า 20 ล้านบาท

10. แฟรนไชส์ร้านเสริมสวย Yes it is: สามารถปิดแฟรนไชส์ในงานได้ถึง 72 ราย และเจรจาต่อยอดหลังวันงานได้เพิ่มกว่า 10 ราย

สำหรับงาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ในปีนี้ได้จัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 ธันวาคม 2564 ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็คเมืองทองธานี ธุรกิจไหนมีโซลูชั่นดีๆ สามารถสมัครมาร่วมออกบูธได้ รับจำนวนจำกัด!! พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]
https://expo.smartsme.co.th

 

ส่วนผู้สนใจเข้าร่วมงาน สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับคิวอย่างปลอดภัยจากโควิดได้ที่: https://expo.smartsme.co.th/register/

ข่าวสาร
[ กรกฎาคม 5, 2021 by whira t 0 Comments ]

ทำความเข้าใจสายพันธุ์กัญชา ทำไมพันธุ์หางกระรอกไทย ติดท็อป 5 ของโลก

กัญชา เป็นพืชสกุล Cannabis อยู่ในวงศ์ Cannabaceae มีลำต้นเตี้ยไม่ถึง 2 เมตร มีแฉกน้อยเพียง 5-7 แฉก ใบสีเขียวถึงเขียวจัด ต่างจากกัญชงที่มีลำต้นสูงเกิน 2 เมตร มีแฉกมากถึง 7-11 แฉก ใบมีสีเขียวอมเหลือง โดยกัญชาจะให้สารสำคัญทางการแพทย์ อย่าง CBD และ THC

THC และ CBD คืออะไร

สารสองอย่างนี้มีชื่อเต็มคือ THC (Tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol) ซึ่งเป็นสารที่พบได้มากที่สุดในพืชตระกูลกัญชา และกัญชง โดย THC จะพบมากใน กัญชา ส่วน CBD จะพบมากใน กัญชง ถึงแม้ว่าสาร 2 ชนิดนี้จะมาจากพืชตระกูลเดียวกัน แต่คุณสมบัติและประโยชน์ ที่ได้นั้นแตกต่างกัน

ประโยชน์ของ THC และ CBD

THC ขึ้นชื่อเรื่องการนำมาใช้เพื่อผ่อนคลาย ส่งเสริมสุขภาวะการนอนหลับ แต่สารชนิดนี้ก็ยังมีประโยชน์ทางการแพทย์และต่อสุขภาพของผู้ใช้ เช่น

  • บรรเทาอาการข้างเคียงของการทำคีโมฯ รักษามะเร็ง
  • บรรเทาอาการภูมิแพ้
  • เส้นเลือดตีบ
  • บรรเทาอาการเอชไอวี/เอดส์
  • บรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรัง
  • บรรเทาอาการติดเชื้อหรืออักเสบ
  • ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร

CBD แม้ว้าสาร จะไม่ออกฤทธิ์ทางระบบประสาทที่ทำให้เกิดอาการเมา แต่ในวงการแพทย์มองว่าเป็นสารชนิดนี้เป็นที่น่าสนใจมากที่สุด โดยพบว่ามีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพอยู่หลายประการ อาทิ

  • บรรเทาอาการเจ็บปวดเรื้อรังจากมะเร็ง
  • บรรเทาอาการลมบ้าหมู
  • บรรเทาอาการของโรค ALS หรือกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • บรรเทาอาการพาร์กินสัน (อาการสั่น)
  • ลดปัญหาสิวและอาการผิวแห้ง
  • บรรเทาอาการซึมเศร้า
  • บรรเทาอาการโรคเบาหวาน
  • บรรเทาอาการทางจิตเภทต่าง ๆ
  • บรรเทาอาการลงแดงจากสารเสพติดอื่น ๆ
  • บรรเทาและป้องกันโรคหัวใจ

โดยหลักแล้วพืชกัญชาจะมี 3 สายพันธุ์ที่พบบ่อย ได้แก่ สายพันธุ์ซาติวา สายพันธุ์อินดิกา และสายพันธุ์รูเดอราลิส

ซาติวา (Cannabis sativa) มีแหล่งกำเนิดบริเวณเส้นศูนย์สูตร แบบร้อนชื้น เช่น โคลัมเบีย เม็กซิโก (ทวีปอเมริกา) ตอนกลางของทวีปแอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างในประเทศไทย มักพบในแถบลุ่มแม่น้ำสงคราม บริเวณจังหวัดอุดรธานี หนองคาย สกลนคร และนครพนม

ซาติวามีลำต้นหนา ความสูง ใบยาว เรียว สีเขียวอ่อน (เมื่อเทียบกับอินดิกา) ระยะเวลาการเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยว 9-16 สัปดาห์ ชอบแดดและ อากาศร้อน มีสาร THC (Tetrahydrocannabinol) ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาททำให้เคลิ้ม เพื่อใช้ในการรักษา สูงกว่าอินดิกา

อินดิกา (Cannabis indica) ได้ชื่อตามแหล่งกำเนิดที่ค้นพบในอินเดียและบริเวณตะวันออกกลาง อินดิกามีลำต้นพุ่มเตี้ย ความสูงเมื่อเติบโตเต็มที่ประมาณ 180 เซนติเมตร ใบกว้าง สั้น สีเขียวเข้ม (เมื่อเทียบกับซาติวา) กิ่งก้านดกหนา ระยะเวลาการเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยว 6-8 สัปดาห์ ชอบที่ร่มและอากาศเย็น เช่นเทือกเขาฮินดูกูช ในอัฟกานิสถาน อินดิกามีสาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งออกฤทธิ์ระงับประสาท (Sedative) ทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย ลดอาการปวดเรื้อรัง ทั้งยังนิยมใช้กับผู้ป่วยที่มีอาการเครียดให้รู้สึกผ่อนคลาย

รูเดอราลิส (Cannabis ruderalis) มีแหล่งกำเนิดบริเวณตอนกลางและตะวันออกของทวีปยุโรป เติบโตได้ดีทั้งในอากาศหนาวเย็นและกากาศร้อน มีลำต้นเตี้ยที่สุดในบรรดา 3 สายพันธุ์ ดูคล้ายวัชพืช ใบกว้างมี 3 แฉก ปริมาณสาร THC น้อย แต่มี CBD สูง จึงไม่ค่อยได้รับความนิยม  แม้จะให้ผลผลิตเร็วที่สุดก็ตาม และมักนำไปผสมข้ามสายพันธุ์ (hybrid) กับซาติวาและอินดิกา เพื่อให้ได้ คุณสมบัติทางยาสูงขึ้น

นอกจากนี้ยังมีการนำกัญชา 3 สายพันธ์หลักนี้ ไปผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้คุณสมบัติทางยาเพิ่มขึ้น เช่น ซีบีดี คริทิเคิล แมส (CBD Critical Mass) ประกอบด้วยอินดิกา 80% และซาติวา 20% ทำให้ได้ THC ประมาณ 5-10% และ CBD ประมาณ 5-10%

ส่วนสายพันธ์ผสมอินดิกา 50% และซาติวา 50% ได้แก่ เอส เอ จี อี ซีบีดี (S.A.G.E. CBD) ทำให้ได้ THC 9.54% และ CBD 9.37% แคนนาโทนิก (Cannatonic) ได้ THC 6% และ CBD 6-17% ซีบีดีเธอราพี (CBD Therapy) ได้ THC 0.5% และ CBD 8-10%

สำหรับประเทศไทย เรามีกัญชาสายพันธุ์ดั้งเดิมที่ได้รับการยกย่องจากต่างประเทศว่าเป็นสายพันธุ์ดีติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก อย่าง กัญชาสายพันธุ์ ‘หางกระรอก’ (Thai Stick) ซึ่งบางที่มาระบุว่าเป็นพันธุ์ผสมระหว่างซาติวาและอินดิกา แต่ข้อมูลส่วนใหญ่มักชี้ว่าเป็นพันธุ์ซาติวาอย่างเดียว โดยกัญชาไทยสายพันธุ์นี้มีปริมาณสาร THC หรือสารที่มีคุณประโยชน์ในทางรักษาสูงกว่าสายพันธุ์อื่นๆ เนื่องจากภูมิอากาศร้อนชื้นในบ้านเราเป็นปัจจัยที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ มักขึ้นอยู่ตามธรรมชาติแถบเทือกเขาภูพาน จังหวัดสกลนคร มาตั้งแต่สมัยโบราณก่อนจะถูกกำหนดให้เป็นสิ่งเสพติด

เนื่องจากขณะนั้นเกิดการกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ปราบปรามกัญชาในประเทศไทยอย่างจริงจัง ส่งผลให้กัญชาสายพันธุ์หางกระรอกหายไปทั้งในแง่ขององค์ความรู้ด้านการผลิต และการเป็นสายพันธุ์ต้นตำรับ ปัจจุบัน Thai Stick ได้รับการขนานนามว่าเป็น Lost Art หรือศิลปะที่หายสาบสูญ แต่หลังจากที่บ้านเราปลดล็อคกัญชา มีมีการฟื้นฟูกลับมาเพาะปลูกหลาย ๆ ที่ เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร (RMUTI) ฯลฯ

แล้วมาต่อยอดธุรกิจกัญชากันต่อได้ที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ระหว่าง 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็คเมืองทองธานี กับไฮไลท์ 5 โซนเด็ดให้คนรักการทำธุรกิจมาต่อยอดโอกาส ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

ข่าวสาร
[ มิถุนายน 25, 2021 by whira t 0 Comments ]

ร้านกาแฟในอังกฤษ หันมาใช้น้ำนมจากพืชกับสูตรเครื่องดื่ม และอาหาร

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงลอนดอน รายงานว่าปัจจุบันผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรให้ความสำคัญต่อประเด็นด้านสุขภาพควบคู่ไปกับบริโภคอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคในประเทศอังกฤษมีการบริโภคสินค้าเครื่องดื่มจากพืชเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนน้ำนมจากสัตว์มากขึ้น จากการสำรวจพบว่า 1 ใน 3 ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร จะเลือกซื้อน้ำนมจากพืช (Plant milk) แม้จะมีราคาสูงกว่าน้ำนมจากสัตว์ เช่น โอ๊ต มะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว กัญชง ถั่ว ข้าวบาร์เลย์ ข้าว เมล็ดเจีย และอื่นๆ

.

สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือผู้บริโภคส่วนใหญ่ใช้น้ำนมจากพืชทดแทนทั้งในเครื่องดื่ม และส่วนผสมอาหาร และเริ่มมีความนิยมมากขึ้นในกลุ่มบาริสต้า ที่เริ่มใช้น้ำนมพืชมาเป็นสูตรการปรุงเครื่องดื่ม นอกจากนี้ ร้านกาแฟหลายร้านได้ทยอยยกเลิกการคิดค่าน้ำนมจากพืชกับลูกค้าเพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคมากขึ้น โดยตลาดเครื่องดื่มน้ำนมจากพืช มีมูลค่ามากถึง 226 ล้านปอนด์ ในปี 2019 และคาดว่าในปี 2025 มูลค่าตลาดจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 2 เท่า หรือเป็นมูลค่า 479 ล้านปอนด์ หรือจะเติบโตมากถึง 13.8%

.

โดยคาดว่าน้ำนมอัลมอนด์จะมีการเติบโตมากที่สุดถึง 16.6% ในช่วงปี 2020-2025 เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเข้มข้น และมีแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต และไขมันในปริมาณต่ำ ซึ่งสามารถนำไปปรุงได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน นอกจากนี้ นมข้าวโอ๊ต (Oat milk) และนมเมล็ดแฟลกซ์ (Flax Seed milk) ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้บริโภคอาหารวีแกน (Vegan) อย่างไรก็ตาม กลุ่มน้ำนมข้าวยังคงเป็นสินค้าที่น่าจะมีการเติบโตได้มากถึง 14.1% ซึ่งกลุ่มน้ำนมข้าวนี้ยังไม่มีผลิตภัณฑ์วางขายมากนักในตลาดสหราชอาณาจักร ขณะที่น้ำนมถั่วเหลือง (Soy Milk) แม้จะมีสัดส่วนตลาดมากถึง 20% แต่กลับเป็นกลุ่มที่คาดว่าการเติบโตของตลาดจะมีเพียง 2.9% เท่านั้น เนื่องจากผู้บริโภคได้รู้จักผลิตภัณฑ์จากนมถั่วเหลืองมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว และส่วนแบ่งตลาดอาจลดลงในอนาคตหากยังไม่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ

.

ประเด็นที่น่าจับตามองคือ ปัจจุบันผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรและยุโรปเริ่มให้ความสนใจในการบริโภคอาหารวีแกน หรือมังสวิรัติมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นวีแกนเข้าสู่ตลาดสูงขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคเริ่มเห็นสินค้าแบ่งออกเป็นหลายกลุ่ม ทั้ง Plant – based และ Vegan friendly แต่สินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้ยังมีความแตกต่างกันในแต่ละตลาด ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการออกกฎหมายควบคุมสินค้าทั้งสองประเภทนี้อย่างชัดเจน

.

อย่างไรก็ตาม การวางขายสินค้าวีแกน ผู้ผลิตจะต้องไม่สร้างความเข้าใจผิดให้ผู้บริโภคโดยอาจใช้มาตรฐาน ขั้นตอนกระบวนการผลิตของหน่วยงานที่ให้การรับรองตราสัญลักษณ์ต่าง ๆ ซึ่งมีการให้นิยามที่แตกต่างกัน เช่น ISO ได้นิยามสินค้า Vegetarian โดย ISO กำหนดให้เป็นการผลิตโดยไม่มีส่วนผสมจากสัตว์ ในขณะที่ Vegetarian Society’s ให้ความนิยามว่า Vegetarian จะต้องไม่มีส่วนผสมจากการฆ่าสัตว์ ส่วนทางด้าน British standard เห็นว่า Plant-based food ไม่ใช่ Vegan food

 

อยากได้ไอเดียใหม่มาต่อยอดธุรกิจ พบกันที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ระหว่าง  2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็คเมืองทองธานี กับไฮไลท์ 5 โซนเด็ดให้คนรักการทำธุรกิจมาต่อยอดโอกาส ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน

3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

.

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

 

ข่าวสาร
[ มิถุนายน 23, 2021 by whira t 0 Comments ]

แจกเช็คลิสต์ การเลือกซื้อแฟรนไชส์ #ให้โตได้จริง และไม่โดนเอาเปรียบ

แจกเช็คลิสต์ การเลือกซื้อแฟรนไชส์ #ให้โตได้จริง และไม่โดนเอาเปรียบ

แฟรนไชส์ ถือเป็นธุรกิจที่ขยายตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยการนำกลยุทธ์ที่ยินยอมให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ ชื่อสินค้าหรือบริการ แบรนด์ หรือ โลโก้ ของเจ้าของแฟรนไชส์ หรือเรียกว่า แฟรนไชส์ซอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงระบบบริหารจัดการ เกี่ยวกับธุรกิจของตนให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซี
.
ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า และ Knowhow ที่ได้เรียนรู้ให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งมีลักษณะการจ่ายที่แตกต่างกันไปตามข้อตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น จ่ายค่าแฟรนไชส์ครั้งแรก หรือหักค่าสิทธิ์ Royalty Fees จากรายได้ของผู้ซื้อแฟรนไชส์ โดยผู้ซื้อควรศึกษาแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง และเป็นธุรกิจที่มีความสะดวกทั้งต่อตัวผู้ซื้อแฟรนไชส์และผู้บริโภค พร้อมสามารถมองเห็นโอกาสเติบโตได้จริง
ครั้งนี้ เรามาดูกันว่าก่อนเลือกซื้อแฟรนไชส์ ควรต้องเช็คเรื่องใดบ้าง ให้มีโอกาสเติบโตได้อย่างยืดยาว

.

เริ่มจากความเป็นตัวตนเรา อย่าเลือกจากกระแสนิยมเท่านั้น

ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆรอบด้าน เช่น เป็นธุรกิจประเภทที่ชอบหรือมีความสนใจหรือไม่ ยกตัวอย่าง อยากทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟ เพราะมองว่าคนนิยมดื่มกาแฟกันมาก แต่ตัวเจ้าของธุรกิจเองไม่ดื่มกาแฟ กรณีแบบนี้ก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้

.

Brand / System / Profit / Return คือหัวใจหลัก

การเลือกลงทุนแฟรนไชส์ให้ประสบความสำเร็จ มี 4 เรื่องหลักๆ ดังนี้

ชื่อเสียง หรือแบรนด์ (Brand) แบรนด์โดดเด่น มีชือเสียงและภาพลักษณ์ดี เป็นที่รู้จักวงกว้าง
ระบบ (System) ต้องเรียนรู้ง่าย อุปกรณ์ใช้งานได้ดี มีการสนับสนุน อบรม และช่วยเหลือดี
ผลกำไร (Profit) การลงทุนไม่มากเกินไป รายได้ดี มีกำไร และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการต้องไม่สูงเกินไป
การคืนทุน (Return) ใช้เวลาคืนทุนไม่นาน ระยะเวลาไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งของสัญญา

*Tips ควรหาข้อมูลแฟรนไชส์ในธุรกิจที่ตนชอบ แล้วทำการวิเคราะห์ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย

.

ความมั่นคงของแฟรนไชส์ซอร์ คือความมั่งคงของแฟรนไชส์ซี

ความมั่นคงของธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราสนใจเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถึงแม้จะสามารถบริหารแฟรนไชส์ที่ซื้อมาได้ดี แต่หากบริษัทแม่ต้องปิดตัวไปก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ ฉะนั้นควรศึกษาให้ดีว่าแฟรนไชส์เจ้านั้น ทำธุรกิจนี้มาแล้วกี่ปี ปัจจุบันมีสาขา แบ่งเป็นสาขาของตัวเองและสาขาแฟรนไชส์กี่สาขา อัตราการปิดสาขาลงไปมีความถี่มากแค่ไหน ที่สำคัญคือโมเดลธุรกิจต้องมีความมั่งคง และสร้างกำไรได้ต่อเนื่อง

*Tips การสัมภาษณ์ และเจรจาธุรกิจกับเจ้าของแฟรนไชส์ที่ต้องการลงทุน จะช่วยให้เรามองเห็นทิศทางในอนาคตได้มากขึ้น

.

การกำหนดเงื่อนไขสัญญา ต้องทำออกมาอย่าง Win Win

การกำหนดเงื่อนไขสัญญาบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ชัดเจน ผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรคำนวณต้นทุนทุกอย่างให้ครบ เพื่อประเมินความสามารถในการลงทุน และการทำกำไรในระยะยาว โดยต้องศึกษารายละเอียดข้อตกลง บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตกลงกันไม่ได้ รวมถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบในระยะยาวด้วย

*Tips ควรศึกษาข้อตกลงอย่างละเอียด พร้อมพิจารณา ต่อรอง ก่อนตัดสินใจทำสัญญา

.

เจ้าของแฟรนไชส์ต้องให้ความสำคัญกับการควบคุมคุณภาพ

ด้านการควบคุมคุณภาพก็ต้องพิจารณาให้ดี ซึ่งผู้ซื้อควรศึกษาว่าตัวเจ้าของแฟรนไชส์ให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพสินค้าหรือบริการหรือไม่ เช่น หากเป็นสินค้าบริโภค ต้องควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบให้สะอาด และได้มาตรฐาน สำหรับธุรกิจบริการ ควรมีการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อให้บริการในมาตรฐานเดียวกัน ฯลฯ

*Tips ควรแวะไปเยี่ยมชมสาขาแฟรนไชส์ที่สนใจ เพื่อเห็นข้อมูลการทำธุรกิจจริงของแฟรนไชส์

.

เมื่อแฟรนไชส์ที่ใช่เจอกับทำเลที่ดี ธุรกิจก็จะมีโอกาสเติบโตเร็วขึ้น

การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมก็สำคัญมากไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เกิดรายได้ที่มั่นคง ทั้งยังช่วยให้ผู้ลงทุนวางแผนการขนส่งสินค้าหรือวัตถุดิบไปยังสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

*Tips หากยังไม่มีทำเลที่ใช่ ควรให้ผู้ขายแฟรนไชส์ช่วยแนะนำทำเลให้ พร้อมช่องทางการขายผ่านออนไลน์ ที่สำคัญคือผู้ซื้อต้องเข้ารับการอบรม เตรียมการต่างๆ ก่อนเริ่มเปิดดำเนินงาน

.

แล้วพบกันที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ระหว่าง 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็คเมืองทองธานี กับไฮไลท์ 5 โซนเด็ดให้คนรักการทำธุรกิจมาต่อยอดโอกาส ดังนี้

  1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
  2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
  3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
  4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
  5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

.

เปิดจองบูธแล้ววันนี้

Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624

E-Mail : [email protected]

 

 

ข่าวสาร
[ มิถุนายน 2, 2021 by whira t 0 Comments ]

HANA แฟรนไชส์สินค้าราคาเดียว ลงทุนหลักแสน ทำกำไรระยะยาว

ใครที่กำลังอยากเปิดร้านสินค้าราคาเดียวตามแหล่งชุมชน ขอแนะนำให้รู้จักกับร้าน HANA อีกหนึ่งแบรนด์แฟรนไชส์ที่รวมรวมสินค้าคุณภาพที่แปลกใหม่ มีฟังก์ชั่นการใช้งานตอบโจทย์คนยุคปัจจุบัน ครอบคลุมกลุ่มของใช้ภายในบ้านมากมาย อาทิ อุปกรณ์ทำความสะอาด เครื่องครัว เครื่องเขียน อุปกรณ์อาบน้ำ การจัดแต่งสวน และสินค้าเบ็ดเตล็ดต่างๆ

 

 

คุณเอมอร โพธิ์ศรีทอง เจ้าของแบรนด์ HANA (ฮานะ) เล่าว่า จากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี จึงนำมาต่อยอดเป็นแฟรนไชส์ร้าน HANA ศูนย์รวมสินค้านำเข้าจากต่างประเทศมากมาย ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน เน้นการคัดสรรค์สินค้าคุณภาพให้ลูกค้าได้ความคุ้มค่ามากกว่าราคาที่ซื้อไป สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นของใช้ภายในครัวเรือน ราคาแฟรนไชส์มีทั้งสิ้น 4 แพคเกจ พร้อมสินค้า อุปกรณ์ ระบบบริหารจัดการ และการวางแผนการตลาด ดังนี้

  • แพคเกจ SS ราคา 399,000 บาท สำหรับพื้นที่ร้านขนาด 16-25 ตรม.
  • แพคเกจ S ราคา 599,000 บาท สำหรับพื้นที่ร้านขนาด 26-30 ตรม.
  • แพคเกจ M ราคา 799,000 บาท สำหรับพื้นที่ร้านขนาด 35-55 ตรม.
  • แพคเกจ L ราคา 999,000 บาท สำหรับพื้นที่ร้านขนาด 70-100 ตรม.

      

 

โดยร้านทุกไซส์จะได้สินค้าไว้ขายแบบเต็มร้าน ซึ่งราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 19 – 99 บาท เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น และแฟรนไชส์ซีก็จะมีโอกาสเติบโตร่วมกันได้อย่างรวดเร็ว ใครที่มีเงินลงทุนและมีพื้นที่ว่างอยู่แล้วยังไม่รู้จะทำอะไร แฟรนไชส์ HANA เป็นอีกทางเลือกที่มีแนวทางสร้างกำไรสูงถึงเดือนละ 50,000 – 100,000 บาท ทั้งเจ้าของร้านยังไม่ต้องเหนื่อยทำธุรกิจ เนื่องจากมีการวางระบบช่วยบริหารจัดการไว้ให้ครบ ถ้าไม่มีเวลาดูร้านเองก็จะใช้นักงานเพียงหนึ่งคนเท่านั้น และที่สำคัญทางร้านจะมีการปรับเปลี่ยนการนำเข้าสินค้ารูปแบบใหม่ทุกๆ 3 เดือน

 

 

สนใจแฟรนด์ไชน์ ติดต่อได้ที่คุณเอมอร โพธิ์ศรีทอง 093-665-2497

 

และเตรียมพบกับ HANA แฟรนไชส์สินค้าราคาเดียว ได้ที่งาน Smart SME Expo 2021 บูธ C57, C58 โซนธุรกิจไอทีและเทคโนโลยี วันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็คเมืองทองธานี

ข่าวสาร
[ พฤษภาคม 21, 2021 by whira t 0 Comments ]

โอกาสเดียวที่คุณจะคว้าบ้าน ที่ดิน คอนโด อาคารพาณิชย์ ทั่วไทย ด้วยข้อเสนอสุดเร้าใจ ลดสูงสุดกว่า 70%



โอกาสเดียวที่คุณจะคว้าบ้าน ที่ดิน คอนโด อาคารพาณิชย์ ทั่วไทย ด้วยข้อเสนอสุดเร้าใจ ลดสูงสุดกว่า 70%*

 

วันอังคารที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 9.00 – 17.00 น.

พบกับ “ประมูลทรัพย์ออนไลน์ by BAM”

การจัดประมูลทรัพย์ออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ด้วยการจับมือระหว่าง BAM และสหการประมูล โดยสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ทรัพย์ประมูล ราคาลดพิเศษ จะแบ่งเป็น 2 รอบ รวมกว่า 250 รายการ

รอบที่หนึ่ง เวลา 13.00 – 15.00 น. ประมูลทรัพย์เด่น ราคาดี ลดสูงสุด 35%

รอบที่สอง เวลา 15.00 – 17.00 น. ประมูลทรัพย์ตามสภาพ ราคาโดน ลดสูงสุดกว่า 70%

 

ตัวอย่างรายการทรัพย์ เช่น บ้านเดี่ยวโครงการเศรษฐสิริ-รามอินทรา ราคาปกติ 6,930,000.- บาท ราคาเริ่มต้นประมูลแค่ 4,900,000.- บาท หรือ ป๊อปปูลาร์คอนโด เมืองทองธานี ราคาปกติ 647,000.- บาท ราคาเริ่มต้นประมูลแค่ 441,000.- บาท

 

รับโปรโมชั่นมากมายภายในงาน อาทิ บัตรกำนัลสูงสุดมูลค่า 100,000 บาท/รายการทรัพย์* และฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ (สูงสุดไม่เกิน 900,000 บาท/รายการทรัพย์*)

 

*เงื่อนไขและราคาเป็นไปตามที่ BAM กำหนด

และเตรียมพบกับ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) หรือ BAM ได้ที่บูธ B11 โซนภาครัฐและสถาบันการเงิน ในงาน Smart SME Expo 2021 ระหว่างวันที่ 16 – 19 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองธานี

 

BAM คัดสรร คุ้มค่า เพื่อคุณ

บ้าน ที่ดิน คอนโด จาก BAM เท่านั้น

—————————————————————

☎️ Call center : 02-6300-700

🌐 Website : http://www.bam.co.th

🔹 Facebook : https://bit.ly/35Fbhzc

📷Instagram : https://bit.ly/35IXtnc

🐦 Twitter : https://bit.ly/2FBXNcy

🔴 YouTube : https://bit.ly/3kj9R1k

✅ LINE@ : https://lin.ee/e0qW7We

🔵 LinkedIn : https://bit.ly/3bZ7ca7

—————————————————————

#BAMThailand #สหการประมูล #ประมูลออนไลน์byBAM #ประมูล #อสังหาฯ #บ้าน #ที่ดิน #คอนโด #อาคารพาณิชย์ #บ้านมือสอง

ข่าวสาร
[ เมษายน 23, 2021 by administrator 0 Comments ]

ผลิตภัณฑ์อาหาร ‘กินแล้วสวย’ เริ่มมาแรงในตลาดจีน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว รายงานว่า ขณะนี้ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มมีการรับรู้เกี่ยวกับการปรับวิธีการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้สวยจากภายในสู่ภายนอก จึงมีคนจำนวนมากหวังจะมีรูปลักษณ์ที่สวยขึ้น ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ หรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว รายงานว่า ขณะนี้ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มมีการรับรู้เกี่ยวกับการปรับวิธีการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้สวยจากภายในสู่ภายนอก จึงมีคนจำนวนมากหวังจะมีรูปลักษณ์ที่สวยขึ้น ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ หรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

 

ปัจจุบันความงามและการดูแลผิวได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภคทั้งชายและหญิง โดยในรายงานสำรวจสุขภาพประชากรปี 2021 ของบริษัท dxy.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลทางการแพทย์เผยว่า สภาพผิวพรรณที่ไม่ดีได้กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพอันดับ 2 ของผู้บริโภครองจากปัญหาทางอารมณ์ โดยเฉพาะผู้หญิงกลุ่มวัยสาวที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 2000 – 2009 (อายุ 12 – 21 ปี) และปี ค.ศ. 1995 – 1999 (อายุ 22 – 26 ปี) รวมถึงผู้บริโภคที่เกิดปี ค.ศ. 1990 – 1994 (อายุ 27 – 31 ปี) ที่เป็นกลุ่มที่มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับปัญหาผิวพรรณ

 

นอกจากนี้ ผู้บริโภคเริ่มมีเหตุผลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคยุคใหม่มักจะนำหลักทางวิทยาศาสตร์มาวิเคราะห์สภาพผิวพรรณของตน แล้วจึงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณหรือเครื่องสำอางที่เหมาะสมกับตนเองมากยิ่งขึ้น

 

ข้อมูลจากศูนย์วิจัย CBNData พบว่าผลิตภัณฑ์ชนิดดูแลผิวพรรณ 10 อันดับแรกที่มีส่วนผสมที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในการรับประทานเพื่อความสวยงาม ได้แก่ กรดไฮยาลูโรนิก นิโคตินามายด์ และเซราไมด์ โดยเฉพาะนิโคตินามายด์ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 เป็นสารอาหารในผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวพรรณมีความขาวกระจ่างใส ซึ่งสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด ได้แก่ เนื้อปลา นม ไข่ ผักใบเขียว เป็นต้น โดยผู้บริโภคเพศหญิงเริ่มให้ความสำคัญกับความขาวใสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า ในจำนวนผู้บริโภคที่บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทาน 10 คน จะมีผู้บริโภค 5 คนที่เลือกผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานที่มีคุณสมบัติให้ความขาว

เมื่อพิจารณาตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานในปัจจุบัน พบว่า คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ฯ ที่ทำให้ผิวขาวได้รับความนิยม และครองส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุด โดยปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฯ ของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงของแบรนด์ และการแนะนำของ KOL เป็นสำคัญ รวมทั้งการให้ข้อมูลและคุณสมบัติของนิโคตินามายด์ที่เป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวใส จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ฯ มีความต้องการจำนวนมาก สอดคล้องกับรายงานด้านความงามของจีนปี ค.ศ. 2020 พบว่า ผู้บริโภคมีการรับรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่ช่วยให้ผิวพรรณขาวใสได้มากที่สุด คือ วิตามินซี รองลงมาคือกลุ่มวิตามินบี หรือนิโคตินามายด์ และวิตามินอี ตามลำดับ

จากความนิยมดังกล่าว ผู้ประกอบการไทยหรือแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานของไทยที่ต้องการขยายตลาดส่งออกเข้าสู่ตลาดจีน ต้องให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการบริโภคในตลาดจีน ตลอดจนพิจารณาพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานดังกล่าวด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนให้ได้มากที่สุด รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซของจีน และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย

 

ทั้งนี้ ต้องมีการปรับปรุงคอนเทนต์ และรูปแบบการนำเสนอให้มีความทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มผู้บริโภคหลักอย่างผู้บริโภควัยรุ่นและวัยกลางคนยุคใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง และมักเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติตอบโจทย์ความต้องการดูแลส่วนบุคคลมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังต้องศึกษากฎระเบียบ และการรับรองมาตรฐานการนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานของไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ได้รับความนิยม และสามารถขยายตลาดส่งออกเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

อยากหาไอเดียต่อยอดธุรกิจ มาพบกันที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

ข่าวสาร
[ เมษายน 8, 2021 by administrator 0 Comments ]

5 กลุ่มสินค้าที่ยังคง ‘รอดตาย’ ท่ามกลางพิษโควิดระลอก 3

ด้วยการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่ 3 เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ทำให้หลายธุรกิจต่างกังวลถึงความไม่แน่นอนของชีวิตและทรัพย์สิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายธุรกิจที่โควิดได้กลายมาเป็นโอกาสครั้งสำคัญ มาดูกันว่า 5 ธุรกิจที่ยังคง ‘รอดตาย’ ท่ามกลางพิษโควิดระลอก 3 มีอะไรบ้าง

สินค้ากลุ่มอาหาร สินค้ากลุ่มนี้ยังคงไปได้ตลอด แต่ความท้าทายคือเรื่องการสร้างแรงจูงใจลูกค้า โดยเฉพาะอาหารรูปแบบใหม่ๆ ที่มีการใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยทำการตลาด และการจัดส่ง รวมไปถึงอาหารแปรรูปพร้อมรับประทาน อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารผสมวิตามิน อาหารเพื่อผู้ออกกำลังกาย ฯลฯ

สินค้าและบริการเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยนโยบาย Social Distancing รวมถึงการ Work From Home ทำให้ดิจิทัลคอนเทนท์ เกมส์ และภาพยนตร์ มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น และผู้คนก็จะเลือกลงทุนการเข้าเป็นสมาชิกรายเดือนบนแอปนั้นๆ มากขึ้นตามมา

สินค้าด้านเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ในเรื่องของโควิดแล้ว ยังเชื่อมโยงไปถึงการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) ในบ้านเราด้วย เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ อุปกรณ์วัดคุณภาพการนอนหลับ เครื่องวัดความดัน หรือน้ำตาลแบบไร้สายที่เช็คได้ง่ายๆจากที่บ้าน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแอปต่างๆ ที่ช่วยในเรื่องสุขภาพด้วย

สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน สำหรับข้อนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมากในกลุ่มที่พักอาศัยกันเป็นครอบครัว ส่วนกลุ่มคนโสดในหัวเมืองก็จะมุ่งเน้นการจับจ่ายเป็นของชิ้นเล็กลง แต่ใช้งานได้หลายฟังก์ชั่นมากขึ้น รวมถึงสามารถปรับแต่งเพื่อประโยชน์ใช้สอยได้มากขึ้น และแน่นอนว่าช่องทางการสั่งซื้อก็คงหนีไม่พ้นบรรดา e-Marketplace ต่างๆ

สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีและการเทรนนิ่ง เช่น อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต แลปท็อป การพัฒนาซอฟแวร์ นวัตกรรม หรือเครื่องมือใหม่ๆ ไปจนถึงการมอบความรู้เพื่อเข้ามาช่วยยกระดับผู้คน ให้กลายเป็นคนทำงานที่มีมากกว่า 1 สกิล หรือเป็นผู้ประกอบการที่ทำได้มากกว่า 1 อาชีพ จนเกิดความมั่นคงในอนาคต พร้อมสามารถบริหารจัดการงานได้มีประสิทธิภาพ และฐานข้อมูลมีระบบระเบียบมากขึ้น

สำหรับธุรกิจ 5 กลุ่มนี้ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงในภาวะโควิดก็จริง แต่การจะพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้ในระยะยาว ก็ยังต้องพึ่งพาปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ Mindset การปรับตัวทางเทคโนโลยี การใช้นวัตกรรม หรือแม้แต่แหล่งเงินทุน ซึ่งการมีพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยสนับสนุน ก็จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

แล้วพบกันที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

ข่าวสาร
[ มีนาคม 29, 2021 by administrator 0 Comments ]

แจกเช็คลิสต์ การเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้โตได้จริง และไม่โดนเอาเปรียบ

แฟรนไชส์ ถือเป็นธุรกิจที่ขยายตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยการนำกลยุทธ์ที่ยินยอมให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ ชื่อสินค้าหรือบริการ แบรนด์ หรือ โลโก้ ของเจ้าของแฟรนไชส์ หรือเรียกว่า แฟรนไชส์ซอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงระบบบริหารจัดการ เกี่ยวกับธุรกิจของตนให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซี

ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า และ Knowhow ที่ได้เรียนรู้ให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งมีลักษณะการจ่ายที่แตกต่างกันไปตามข้อตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น จ่ายค่าแฟรนไชส์ครั้งแรก หรือหักค่าสิทธิ์ Royalty Fees จากรายได้ของผู้ซื้อแฟรนไชส์ โดยผู้ซื้อควรศึกษาแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง และเป็นธุรกิจที่มีความสะดวกทั้งต่อตัวผู้ซื้อแฟรนไชส์และผู้บริโภค สามารถมองเห็นโอกาสเติบโต ที่สำคัญควรศึกษาข้อมูลของแฟรนไชส์ที่ก่อนลงทุนอย่างละเอียด

 

 

ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆรอบด้าน เช่น เป็นธุรกิจประเภทที่ชอบหรือมีความสนใจหรือไม่ ยกตัวอย่าง อยากทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟ เพราะมองว่าคนนิยมดื่มกาแฟกันมาก แต่ตัวเจ้าของธุรกิจเองไม่ดื่มกาแฟ กรณีแบบนี้ก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้

 

โดยหลักในการเลือกลงทุนแฟรนไชส์ให้สำเร็จ มี 4 เรื่องหลักๆ ดังนี้

 

  • ชื่อเสียง หรือแบรนด์ (Brand) : แบรนด์ดี มีภาพพจน์ เป็นที่รู้จักกว้างขวาง และชื่อเสียงดี
  • ระบบ (System) : ต้องเรียนรู้ง่าย อุปกรณ์ใช้งานได้ดี มีการสนับสนุน อบรม และช่วยเหลือดี
  • ผลกำไร (Profit) : การลงทุนไม่มากเกินไป รายได้ดี มีกำไร และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการไม่เยอะ
  • การคืนทุน (Return) : ใช้เวลาคืนทุนไม่นาน ระยะเวลาไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งของสัญญา

นอกจากนั้น ความมั่นคงของธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราสนใจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้จะสามารถบริหารแฟรนไชส์ที่ซื้อมาได้ดี แต่หากบริษัทแม่ต้องปิดตัวไปก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ ฉะนั้นควรศึกษาให้ดีว่าแฟรนไชส์เจ้านั้น ทำธุรกิจนี้มาแล้วกี่ปี ปัจจุบันมีสาขา แบ่งเป็นสาขาของตัวเองและสาขาแฟรนไชส์กี่สาขา อัตราการปิดสาขาลงไปมีความถี่มากแค่ไหน

 

ด้านการควบคุมคุณภาพก็ต้องพิจารณาให้ดี ซึ่งผู้ซื้อควรศึกษาว่าตัวเจ้าของแฟรนไชส์ให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพสินค้าหรือบริการหรือไม่ เช่น หากเป็นสินค้าบริโภค ต้องควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบให้สะอาด และได้มาตรฐาน สำหรับธุรกิจบริการ ควรมีการฝึกอบรมบุคลากเพื่อให้บริการในมาตรฐานเดียวกัน ฯลฯ

 

 

ส่วนการกำหนดเงื่อนไขสัญญาบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ชัดเจน ผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรคำนวณต้นทุนทุกอย่างให้ครบ เพื่อประเมินความสามารถในการลงทุน และการทำกำไรในระยะยาว โดยต้องศึกษารายละเอียดข้อตกลง บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตกลงกันไม่ได้ รวมถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบในระยะยาวด้วย

 

ขอแนะนำ 8 ขั้นตอนอย่างฉลาด ก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์

1. หาความรู้ ความเข้าใจเรื่องของแฟรนไชส์ ก่อนเป็นอันดับแรก

2. ให้พิจารณาดูว่า ตนเองชอบธุรกิจ อะไร มีลักษณะอย่างไร

3. หาข้อมูลแฟรนไชส์ในธุรกิจที่ตนชอบ ทำการวิเคราะห์ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย

4. ติดต่อขอข้อมูล และแสดงความสนใจในแฟรนไชส์ที่จะลงทุน

5. เยี่ยมชมสาขาแฟรนไชส์ที่สนใจ เพื่อเห็นข้อมูลการทำธุรกิจจริงของแฟรนไชส์

6. ผ่านการสัมภาษณ์ และเจรจาธุรกิจ กับแฟรนไชส์ที่ต้องการลงทุน

7. พิจารณา ต่อรอง และตัดสินใจทำสัญญาแฟรนไชส์ที่ตนเองต้องการ

8. ลงทุน และผ่านการอบรม เตรียมการต่างๆ เพื่อเริ่มเปิดดำเนินงาน

 

นอกจากนี้ การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมก็สำคัญมากไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เกิดรายได้ที่มั่นคง ทั้งยังช่วยให้ผู้ลงทุนวางแผนการขนส่งสินค้าหรือวัตถุดิบไปยังสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

สำหรับธุรกิจไหนที่ต้องการขยายสาขาแฟรนไชส์ หรือใครที่อยากลงทุนกับแฟรนไชส์มาตรฐาน แนะนำให้มาร่วมงาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 19 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

ข่าวสาร
[ มีนาคม 18, 2021 by administrator 0 Comments ]

7 เหตุผล ที่ธุรกิจแฟรนไชส์ควรมาออกบูธงาน Smart SME Expo 2021

ใกล้เข้ามาแล้วกับ Smart SME Expo 2021 อีเวนท์ใหญ่ประจำปี เพื่อผู้ประกอบการ SMEs ที่จัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยปีนี้ ขึ้นระหว่างวันที่ 2–5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6–7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย พร้อมต่อยอดความสำเร็จให้ผู้ประกอบการไทยแบบรอบด้าน และนี่คือ 7 เหตุผลที่คนทำธุรกิจควรมาออกบูธงานนี้

 

1. อีเวนท์ใหญ่แบบ B2B ที่ SMEs มีส่วนร่วมมากที่สุด

Smart SME Expo เริ่มจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งขณะนั้นมีมูลค่าการซื้อขายธุรกิจ 159.2 ล้านบาท มูลค่าการยื่นขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน 1,482 ล้านบาท และจากเสียงตอบรับที่ดีเรื่อยมา เช่น ปี 2018 ที่มีผู้เข้าชมกว่า 108,498 คน มูลค่าซื้อขายธุรกิจ 1,200 ล้านบาท มูลค่าสินเชื่อธุรกิจ 2,335.90 ล้านบาท ปี 2019 มีผู้เข้าชมงาน 110,250 คน มูลค่าซื้อขายธุรกิจ 2,685 ล้านบาท มูลค่าสินเชื่อ 2,051.79 ปี 2020 มีผู้เข้าชมงาน 35,272 คน มูลค่าการซื้อขายธุรกิจ 170 ล้านบาท ยอดขอสินเชื่อ 1,522 ล้านบาท Business Matching ทั้งในและต่างประเทศ 293 คู่ คิดเป็นมูลค่า 107.1 ล้านบาททำให้ Smart SME Expo เป็นอีกมหกรรมใหญ่งานหนึ่ง ที่เรียกได้ว่า SMEs ควรมา ซึ่งปีนี้ได้จัดไฮไลท์ไว้ใน 5 โซน เพื่อ SMEs สามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

• Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
• Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
• Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
• Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
• Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

คลิกอ่าน: ย้อนดู 10 แฟรนไชส์ ยอดขายถล่มทลายในงาน Smart SME EXPO เมื่อปีก่อน

2. ครบครันทุกโซลูชั่น แบบตอบโจทย์ SMEs

• 300 บูธธุรกิจนานาประเภท จากภาคเอกชน หน่วยงานรัฐและสถาบันการเงินชั้นนำ ที่จะมาช่วยเปิดโลก และต่อยอดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ New Normal
• รวมกิจกรรมสัมมนาและเสวนาต่างๆที่จะมาเปิดโลกความสำเร็จพร้อมไขกุญแจแห่งความรวย โดยผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าของประเทศ
• Business Talk Show จากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จจากการฝ่าฟันปัญหา จนกลายเป็นกลยุทธ์เฉพาะตัวและไม่มีสอนในตำราใด
• กิจกรรมเจรจาธุรกิจพบผู้ค้าและนักธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
• โปรโมชั่นสุด Exclusive สำหรับการลงทุนซื้อขายธุรกิจ พร้อมสินเชื่อพิเศษรูปแบบต่างๆจากสถาบันการเงินชั้นนำ เฉพาะงานนี้เท่านั้น

3. นวัตกรรมเสริมแกร่งธุรกิจ สู่ความยั่งยืน

คัดสรรเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพิ่มประสิทธิภาพ จากผลงานชาวไทย และต่างชาติระดับแถวหน้า เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น พร้อมอัพเดตเทรนด์ธุรกิจในปี 2020 เทรนด์นวัตกรรมใหม่ที่มาพร้อมกับ 5G และเป็นตัวช่วยสำคัญทางธุรกิจในอนาคต พร้อมผนึกกำลังภาครัฐ และสตาร์ทอัพ เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจเป็นเรื่องง่าย

• Online Management บริการด้าน Data และเอกสาร
• นวัตกรรมเพื่อธุรกิจจากหลากหลายสถาบัน
• Service Platform บริการเสริมช่วยเติมเต็มธุรกิจ

4. ยกขบวนแฟรนไชส์อาหารหลากประเภทมาให้เลือกลงทุน ราคาเริ่มต้น “หลักหมื่น” ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการในทุกระดับ
• หลากหลายโมเดลธุรกิจตอบโจทย์ New Normal ราคาเริ่มต้น “หลักหมื่น”
• Delivery Service และดิจิทัลแพล็ตฟอร์ม
• Packaging และอุปกรณ์ในราคาพิเศษ

พร้อมอัพเดตนวัตกรรมธุรกิจความงามที่น่าจับตา และรวบรวมแพล็ตฟอร์มบริการออนไลน์ ที่จะมาช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงบริการความงามและสุขภาพได้ง่ายขึ้น

• Mobile Health (Med Tech)
• Anti-Aging Innovation
• ธุรกิจ Wellness รับยุค Aging Society

5. ธุรกิจทางเลือกใหม่ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่

รวมพลังไอเดียของคนรุ่นใหม่ และธุรกิจสตาร์ทอัพ เปิดโอกาสให้พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้าร่วมชมงาน และการแมทชิ่งธุรกิจ พร้อมการสนับสนุนทางการเงิน เพื่อขยายธุรกิจ และทำตลาดใหม่

6. ทุกปัญหาเรื่องเงินมีทางออก New Financial มิติใหม่ของสินเชื่อผู้ประกอบการ
รวมธนาคารและสถาบันการเงินไว้ให้ SMEs คอยปรึกษา และทุกบูธการเงินต่างพร้อมใจกันจัดแคมเปญพิเศษ เพื่อเอาใจผู้ประกอบการ พร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยจัดการธุรกิจได้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสได้มากขึ้น วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆ พร้อมรู้ผลทันทีภายในงาน

7. รวมหน่วยงานสนับสุนนการทำธุรกิจ SMEs ไว้ให้แบบที่เดียวจบ
รวมหน่วยงานรัฐและเอกชน ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านเทคโนโลยีทันสมัย นวัตกรรม ผลงานวิจัย การจับคู่ธุรกิจ การให้คำปรึกษา การเสริมสร้างองค์ความรู้ รวมทั้งนำเสนอต้นแบบ กรณีศึกษาของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]
https://expo.smartsme.co.th

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ SmartSME EXPO เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ SmartSME EXPO ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ SmartSME EXPO เห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ SmartSME EXPO รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ SmartSME EXPO ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ SmartSME EXPO ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ SmartSME EXPO ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ SmartSME EXPO แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า