ข่าวสาร
[ เมษายน 23, 2021 by administrator 0 Comments ]

ผลิตภัณฑ์อาหาร ‘กินแล้วสวย’ เริ่มมาแรงในตลาดจีน

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว รายงานว่า ขณะนี้ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มมีการรับรู้เกี่ยวกับการปรับวิธีการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้สวยจากภายในสู่ภายนอก จึงมีคนจำนวนมากหวังจะมีรูปลักษณ์ที่สวยขึ้น ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ หรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

 

สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว รายงานว่า ขณะนี้ผู้บริโภคชาวจีนเริ่มมีการรับรู้เกี่ยวกับการปรับวิธีการรับประทานอาหารที่ส่งผลให้สวยจากภายในสู่ภายนอก จึงมีคนจำนวนมากหวังจะมีรูปลักษณ์ที่สวยขึ้น ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ หรือมีส่วนผสมจากธรรมชาติ

 

ปัจจุบันความงามและการดูแลผิวได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้บริโภคทั้งชายและหญิง โดยในรายงานสำรวจสุขภาพประชากรปี 2021 ของบริษัท dxy.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลทางการแพทย์เผยว่า สภาพผิวพรรณที่ไม่ดีได้กลายเป็นปัญหาด้านสุขภาพอันดับ 2 ของผู้บริโภครองจากปัญหาทางอารมณ์ โดยเฉพาะผู้หญิงกลุ่มวัยสาวที่เกิดระหว่างปี ค.ศ. 2000 – 2009 (อายุ 12 – 21 ปี) และปี ค.ศ. 1995 – 1999 (อายุ 22 – 26 ปี) รวมถึงผู้บริโภคที่เกิดปี ค.ศ. 1990 – 1994 (อายุ 27 – 31 ปี) ที่เป็นกลุ่มที่มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับปัญหาผิวพรรณ

 

นอกจากนี้ ผู้บริโภคเริ่มมีเหตุผลในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณมากขึ้น โดยเฉพาะผู้บริโภคยุคใหม่มักจะนำหลักทางวิทยาศาสตร์มาวิเคราะห์สภาพผิวพรรณของตน แล้วจึงเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณหรือเครื่องสำอางที่เหมาะสมกับตนเองมากยิ่งขึ้น

 

ข้อมูลจากศูนย์วิจัย CBNData พบว่าผลิตภัณฑ์ชนิดดูแลผิวพรรณ 10 อันดับแรกที่มีส่วนผสมที่ผู้บริโภคให้ความสนใจในการรับประทานเพื่อความสวยงาม ได้แก่ กรดไฮยาลูโรนิก นิโคตินามายด์ และเซราไมด์ โดยเฉพาะนิโคตินามายด์ที่มีส่วนผสมของวิตามินบี 3 เป็นสารอาหารในผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีคุณสมบัติที่ช่วยให้ผิวพรรณมีความขาวกระจ่างใส ซึ่งสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด ได้แก่ เนื้อปลา นม ไข่ ผักใบเขียว เป็นต้น โดยผู้บริโภคเพศหญิงเริ่มให้ความสำคัญกับความขาวใสมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่า ในจำนวนผู้บริโภคที่บริโภคผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทาน 10 คน จะมีผู้บริโภค 5 คนที่เลือกผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานที่มีคุณสมบัติให้ความขาว

เมื่อพิจารณาตลาดผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานในปัจจุบัน พบว่า คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ฯ ที่ทำให้ผิวขาวได้รับความนิยม และครองส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุด โดยปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฯ ของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียงของแบรนด์ และการแนะนำของ KOL เป็นสำคัญ รวมทั้งการให้ข้อมูลและคุณสมบัติของนิโคตินามายด์ที่เป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยทำให้ผิวพรรณขาวใส จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ฯ มีความต้องการจำนวนมาก สอดคล้องกับรายงานด้านความงามของจีนปี ค.ศ. 2020 พบว่า ผู้บริโภคมีการรับรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่ช่วยให้ผิวพรรณขาวใสได้มากที่สุด คือ วิตามินซี รองลงมาคือกลุ่มวิตามินบี หรือนิโคตินามายด์ และวิตามินอี ตามลำดับ

จากความนิยมดังกล่าว ผู้ประกอบการไทยหรือแบรนด์ผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานของไทยที่ต้องการขยายตลาดส่งออกเข้าสู่ตลาดจีน ต้องให้ความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมการบริโภคในตลาดจีน ตลอดจนพิจารณาพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานดังกล่าวด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวจีนให้ได้มากที่สุด รวมถึงเพิ่มช่องทางการจำหน่ายในแพลตฟอร์ม อีคอมเมิร์ซของจีน และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ทุกเพศทุกวัย

 

ทั้งนี้ ต้องมีการปรับปรุงคอนเทนต์ และรูปแบบการนำเสนอให้มีความทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มผู้บริโภคหลักอย่างผู้บริโภควัยรุ่นและวัยกลางคนยุคใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง และมักเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง มีคุณสมบัติตอบโจทย์ความต้องการดูแลส่วนบุคคลมากขึ้น พร้อมกันนี้ ยังต้องศึกษากฎระเบียบ และการรับรองมาตรฐานการนำเข้าสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและได้รับการยอมรับด้านความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมความงามด้วยการรับประทานของไทยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ได้รับความนิยม และสามารถขยายตลาดส่งออกเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

อยากหาไอเดียต่อยอดธุรกิจ มาพบกันที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

ข่าวสาร
[ เมษายน 8, 2021 by administrator 0 Comments ]

5 กลุ่มสินค้าที่ยังคง ‘รอดตาย’ ท่ามกลางพิษโควิดระลอก 3

ด้วยการแพร่ระบาดของโควิดระลอกที่ 3 เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา ทำให้หลายธุรกิจต่างกังวลถึงความไม่แน่นอนของชีวิตและทรัพย์สิน แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายธุรกิจที่โควิดได้กลายมาเป็นโอกาสครั้งสำคัญ มาดูกันว่า 5 ธุรกิจที่ยังคง ‘รอดตาย’ ท่ามกลางพิษโควิดระลอก 3 มีอะไรบ้าง

สินค้ากลุ่มอาหาร สินค้ากลุ่มนี้ยังคงไปได้ตลอด แต่ความท้าทายคือเรื่องการสร้างแรงจูงใจลูกค้า โดยเฉพาะอาหารรูปแบบใหม่ๆ ที่มีการใช้ดิจิทัลเข้ามาช่วยทำการตลาด และการจัดส่ง รวมไปถึงอาหารแปรรูปพร้อมรับประทาน อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารผสมวิตามิน อาหารเพื่อผู้ออกกำลังกาย ฯลฯ

สินค้าและบริการเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน ด้วยนโยบาย Social Distancing รวมถึงการ Work From Home ทำให้ดิจิทัลคอนเทนท์ เกมส์ และภาพยนตร์ มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น และผู้คนก็จะเลือกลงทุนการเข้าเป็นสมาชิกรายเดือนบนแอปนั้นๆ มากขึ้นตามมา

สินค้าด้านเวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่มีนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ในเรื่องของโควิดแล้ว ยังเชื่อมโยงไปถึงการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging society) ในบ้านเราด้วย เช่น เครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะ อุปกรณ์วัดคุณภาพการนอนหลับ เครื่องวัดความดัน หรือน้ำตาลแบบไร้สายที่เช็คได้ง่ายๆจากที่บ้าน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงแอปต่างๆ ที่ช่วยในเรื่องสุขภาพด้วย

สินค้าเครื่องใช้ในครัวเรือน สำหรับข้อนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างมากในกลุ่มที่พักอาศัยกันเป็นครอบครัว ส่วนกลุ่มคนโสดในหัวเมืองก็จะมุ่งเน้นการจับจ่ายเป็นของชิ้นเล็กลง แต่ใช้งานได้หลายฟังก์ชั่นมากขึ้น รวมถึงสามารถปรับแต่งเพื่อประโยชน์ใช้สอยได้มากขึ้น และแน่นอนว่าช่องทางการสั่งซื้อก็คงหนีไม่พ้นบรรดา e-Marketplace ต่างๆ

สินค้ากลุ่มเทคโนโลยีและการเทรนนิ่ง เช่น อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต แลปท็อป การพัฒนาซอฟแวร์ นวัตกรรม หรือเครื่องมือใหม่ๆ ไปจนถึงการมอบความรู้เพื่อเข้ามาช่วยยกระดับผู้คน ให้กลายเป็นคนทำงานที่มีมากกว่า 1 สกิล หรือเป็นผู้ประกอบการที่ทำได้มากกว่า 1 อาชีพ จนเกิดความมั่นคงในอนาคต พร้อมสามารถบริหารจัดการงานได้มีประสิทธิภาพ และฐานข้อมูลมีระบบระเบียบมากขึ้น

สำหรับธุรกิจ 5 กลุ่มนี้ เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงในภาวะโควิดก็จริง แต่การจะพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้ในระยะยาว ก็ยังต้องพึ่งพาปัจจัยหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ Mindset การปรับตัวทางเทคโนโลยี การใช้นวัตกรรม หรือแม้แต่แหล่งเงินทุน ซึ่งการมีพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยสนับสนุน ก็จะทำให้ธุรกิจไปต่อได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

แล้วพบกันที่งาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 5 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

ข่าวสาร
[ มีนาคม 29, 2021 by administrator 0 Comments ]

แจกเช็คลิสต์ การเลือกซื้อแฟรนไชส์ให้โตได้จริง และไม่โดนเอาเปรียบ

แฟรนไชส์ ถือเป็นธุรกิจที่ขยายตลาดและช่องทางการจัดจำหน่าย ด้วยการนำกลยุทธ์ที่ยินยอมให้ผู้อื่นใช้เครื่องหมายการค้า ได้แก่ ชื่อสินค้าหรือบริการ แบรนด์ หรือ โลโก้ ของเจ้าของแฟรนไชส์ หรือเรียกว่า แฟรนไชส์ซอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงระบบบริหารจัดการ เกี่ยวกับธุรกิจของตนให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซี

ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องมีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้า และ Knowhow ที่ได้เรียนรู้ให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งมีลักษณะการจ่ายที่แตกต่างกันไปตามข้อตกลงของผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น จ่ายค่าแฟรนไชส์ครั้งแรก หรือหักค่าสิทธิ์ Royalty Fees จากรายได้ของผู้ซื้อแฟรนไชส์ โดยผู้ซื้อควรศึกษาแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเอง และเป็นธุรกิจที่มีความสะดวกทั้งต่อตัวผู้ซื้อแฟรนไชส์และผู้บริโภค สามารถมองเห็นโอกาสเติบโต ที่สำคัญควรศึกษาข้อมูลของแฟรนไชส์ที่ก่อนลงทุนอย่างละเอียด

 

 

ก่อนตัดสินใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์ ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆรอบด้าน เช่น เป็นธุรกิจประเภทที่ชอบหรือมีความสนใจหรือไม่ ยกตัวอย่าง อยากทำธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟ เพราะมองว่าคนนิยมดื่มกาแฟกันมาก แต่ตัวเจ้าของธุรกิจเองไม่ดื่มกาแฟ กรณีแบบนี้ก็อาจจะไม่สามารถเข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้

 

โดยหลักในการเลือกลงทุนแฟรนไชส์ให้สำเร็จ มี 4 เรื่องหลักๆ ดังนี้

 

  • ชื่อเสียง หรือแบรนด์ (Brand) : แบรนด์ดี มีภาพพจน์ เป็นที่รู้จักกว้างขวาง และชื่อเสียงดี
  • ระบบ (System) : ต้องเรียนรู้ง่าย อุปกรณ์ใช้งานได้ดี มีการสนับสนุน อบรม และช่วยเหลือดี
  • ผลกำไร (Profit) : การลงทุนไม่มากเกินไป รายได้ดี มีกำไร และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการไม่เยอะ
  • การคืนทุน (Return) : ใช้เวลาคืนทุนไม่นาน ระยะเวลาไม่ควรเกินครึ่งหนึ่งของสัญญา

นอกจากนั้น ความมั่นคงของธุรกิจแฟรนไชส์ที่เราสนใจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้จะสามารถบริหารแฟรนไชส์ที่ซื้อมาได้ดี แต่หากบริษัทแม่ต้องปิดตัวไปก็จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจ ฉะนั้นควรศึกษาให้ดีว่าแฟรนไชส์เจ้านั้น ทำธุรกิจนี้มาแล้วกี่ปี ปัจจุบันมีสาขา แบ่งเป็นสาขาของตัวเองและสาขาแฟรนไชส์กี่สาขา อัตราการปิดสาขาลงไปมีความถี่มากแค่ไหน

 

ด้านการควบคุมคุณภาพก็ต้องพิจารณาให้ดี ซึ่งผู้ซื้อควรศึกษาว่าตัวเจ้าของแฟรนไชส์ให้ความสำคัญในการควบคุมคุณภาพสินค้าหรือบริการหรือไม่ เช่น หากเป็นสินค้าบริโภค ต้องควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบให้สะอาด และได้มาตรฐาน สำหรับธุรกิจบริการ ควรมีการฝึกอบรมบุคลากเพื่อให้บริการในมาตรฐานเดียวกัน ฯลฯ

 

 

ส่วนการกำหนดเงื่อนไขสัญญาบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบที่ชัดเจน ผู้ซื้อแฟรนไชส์ควรคำนวณต้นทุนทุกอย่างให้ครบ เพื่อประเมินความสามารถในการลงทุน และการทำกำไรในระยะยาว โดยต้องศึกษารายละเอียดข้อตกลง บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการตกลงกันไม่ได้ รวมถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบในระยะยาวด้วย

 

ขอแนะนำ 8 ขั้นตอนอย่างฉลาด ก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์

1. หาความรู้ ความเข้าใจเรื่องของแฟรนไชส์ ก่อนเป็นอันดับแรก

2. ให้พิจารณาดูว่า ตนเองชอบธุรกิจ อะไร มีลักษณะอย่างไร

3. หาข้อมูลแฟรนไชส์ในธุรกิจที่ตนชอบ ทำการวิเคราะห์ พร้อมเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย

4. ติดต่อขอข้อมูล และแสดงความสนใจในแฟรนไชส์ที่จะลงทุน

5. เยี่ยมชมสาขาแฟรนไชส์ที่สนใจ เพื่อเห็นข้อมูลการทำธุรกิจจริงของแฟรนไชส์

6. ผ่านการสัมภาษณ์ และเจรจาธุรกิจ กับแฟรนไชส์ที่ต้องการลงทุน

7. พิจารณา ต่อรอง และตัดสินใจทำสัญญาแฟรนไชส์ที่ตนเองต้องการ

8. ลงทุน และผ่านการอบรม เตรียมการต่างๆ เพื่อเริ่มเปิดดำเนินงาน

 

นอกจากนี้ การเลือกทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมก็สำคัญมากไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เกิดรายได้ที่มั่นคง ทั้งยังช่วยให้ผู้ลงทุนวางแผนการขนส่งสินค้าหรือวัตถุดิบไปยังสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

สำหรับธุรกิจไหนที่ต้องการขยายสาขาแฟรนไชส์ หรือใครที่อยากลงทุนกับแฟรนไชส์มาตรฐาน แนะนำให้มาร่วมงาน Smart SME Expo 2021 #ชี้ช่องรวย #ที่เดียวจบพบทางรวย ซึ่งจัดติดต่อกันเป็นปีที่ 7 โดยงานจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 16 – 19 ธันวาคม 2564 ณ ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมไฮไลท์ 5 โซนเด็ด เพื่อคนรักการทำธุรกิจสามารถมาต่อยอดโอกาสรับ New Normal ดังนี้

1. Franchise [Star Area] ธุรกิจดาวเด่นน่าลงทุน
2. Financial & Goverment สถาบันการเงินและหน่วยงานสนับสนุน
3. Beauty & Health ธุรกิจความงาม และสุขภาพ
4. Inno & Tech ธุรกิจนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี
5. Food & Beverage ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

เปิดจองบูธแล้ววันนี้
Call Center 086 314 1482 , 094 915 4624
E-Mail : [email protected]

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็นต่อการใช้งาน (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ SmartSME EXPO เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ SmartSME EXPO ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ SmartSME EXPO เห็นการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ SmartSME EXPO รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ SmartSME EXPO ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ SmartSME EXPO ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณา (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ SmartSME EXPO ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ SmartSME EXPO แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า